ไกจ์เซอร์และฮอนด้าประเดิมสวย MXGP 2020
สำหรับค่ายรถจักรยานยนต์อย่างฮอนด้าที่ถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีเรื่องราวให้ปวดหัวอยู่บ้างทั้งจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปถึงผู้คนทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่วงการแข่งรถ รวมไปถึงเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บของนักแข่งคนสำคัญอย่างมาร์ค มาร์เกซแชมป์โลกชาวสเปน แต่ในช่วงเวลาวิกฤตก็ยังคงพอมีเรื่องให้ยิ้มออกได้อยู่บ้างเช่นกัน และหนึ่งในเรื่องที่พอจะทำให้ยิ้มได้ก็คือ ฟอร์มของนักแข่งของพวกเขาในการแข่งขันประเภทโมโตครอสนั่นเอง
โดยในการแข่งขันโมโตครอสชิงแชมป์โลกรายการ เอฟไอเอ็ม โมโตครอส เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ หรือ MXGP 2020 ที่ได้เริ่มเปิดฉากทำการแข่งขันสนามแรกเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่สนามแมตเทอร์รี่ บาซิน ประเทศอังกฤษ ซึ่งทางฮอนด้ามีนักแข่งระดับแชมป์เก่าโมโตครอสชิงแชมป์โลกอย่างทิม ไกจ์เซอร์ นักบิดวัย 24 ปี ชาวสโลวีเนียที่มาพร้อมกับรถคู่ใจอย่าง ฮอนด้า CRF450RW ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดคือ ฮอนด้า เอชอาร์ซีและแฟน ๆ ของเขาต้องผิดหวังเมื่อสามารถเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ผงาดคว้าแชมป์เรซสองที่ประเทศอังกฤษมาครองได้สำเร็จ
ซึ่งการแข่งขันที่จัดขึ้นนั้นได้ทำการแข่งขันสองเรซด้วยกัน โดยแต่ละเรซจะทำการแข่งขันกันทั้งหมด 13 รอบซึ่งทิม ไกจ์เซอร์แชมป์เก่าจากปีที่แล้วเครื่องร้อนช้าไปหน่อยทำให้จบเรซแรกด้วยการเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 แต่ในเรซต่อมาเมื่อเครื่องของเขาและรถคู่ใจฮอนด้า CRF450RW ร้อนเต็มที่ก็สามารถคืนฟอร์มเก่งกลับมาผ่านตราหมากรุกได้เป็นอันดับที่ 1 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวฤดูกาลใหม่ของเขากับต้นสังกัดได้อย่างสวยงามไร้ที่ติเลยก็ว่าได้ และการเปิดตัวที่ร้อนแรงแบบนี้ของเขาก็น่าจะพอทำให้แฟน ๆ ของเขารวมไปต้นสังกัดอย่างฮอนด้าสามารถคาดหวังถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เมื่อจบสิ้นฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ซึ่งนับจากการเป็นแชมป์สนามแรกจนถึงวันนี้ทิม ไกจ์เซอร์ก็ยังคงรั้งตำแหน่งอันดับที่สองของตารางคะแนนรวมโดยมีอยู่ 278 คะแนน ตามหลังผู้นำอย่างอันโตนิโอ แคโรลี่นักแข่งชาวอิตาลีอยู่เพียงแค่ 7 คะแนนเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเขายังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้
และมันก็เป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างมากให้กับทีมฮอนด้าในปีนี้ ที่นอกจากจะมีนักแข่งผู้เป็นเจ้าสนามจักรยานยนต์ทางเรียบแห่งยุคอย่างมาร์เกซ ที่ถึงแม้จะมีอันต้องพักยาวเนื่องจากอาการบาดเจ็บแต่ก็ยังคงเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกอยู่ และยังสามารถพาตัวเองก้าวขึ้นไปโค่นบัลลังก์ดาการ์ แรลลี่ของเคทีเอ็มได้สำเร็จ แถมปิดท้ายด้วยฟอร์มสวยหรูของทิม ไกจ์เซอร์ในการแข่งขันประเภทโมโตครอสเข้าไปอีกหนึ่งรายการ มันจึงน่าจะเป็นปีที่สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับฮอนด้า